Labels

1คุณสมบัตินักบิน 2สอบนักบิน ATPL Checklist DDM Divert Emirates ILS LOC LowVisibility Multitasking Priority STAR SingaporeAirlines Skill TakeOff Twitter a380 กพ กสพท การทำงาน การทำงานนักบิน การศึกษา การสอบ การเรียน ขึ้นเครื่องบิน ข่าว ข้อสอบ ข้อสอบความถนัด ความถนัด ความรู้การบิน ความรู้นักบิน จากเม็ดยาสู่ฟ้ากว้าง จิตวิทยา ทหาร ทหารบก ทันตแพทย์ นักบิน นักบินทหารบก นักบินอาชีพ ประสบการณ์ ปริญญาตรี ผู้โดยสาร ฝึกIQ พัฒนาตัวเอง ลับสมอง วัดIQ สนามบินดอนเมือง สมาคมนักบินไทย สอบนักบิน สัมภาษณ์นักบิน สายการบิน สายการบินต่างชาติ เครื่องบิน เชาว์ เตรียมสอบ เทคนิค เที่ยวบิน เภสัช เภสัชกร เรื่องเล่า เส้นทางชีวิต เส้นทางอาชีพนักบิน เหตุการณ์ แถลงการณ์ แนะนำเกม แพทย์ แอร์โฮสเตส

Saturday, July 16, 2022

"จากเม็ดยาสู่ฟ้ากว้าง" เรื่องเล่าจากเรื่องราวของตัวฉัน

เรื่องเล่าจากตัวฉัน… “จากเม็ดยาสู่ฟ้ากว้าง”


 “จากเม็ดยาสู่ฟ้ากว้าง” — บทนำ

กรุงเทพมหานคร ประเทศไทยเมื่อ 9ปีก่อน

ในจุดเริ่มต้น… มันเกิดขึ้นตอนที่ฉันก้าวเข้าสู่การทำงานเภสัชกรเป็นปีที่ 3

ขณะที่ฉันกำลังมีความรู้สึกดีที่ได้ทำงานผลิตยาเพราะมันเป็นความตั้งใจสำคัญที่ทำให้ฉันเลือกเรียนเภสัชศาสตร์บัณฑิต ฉันก็ใช้ชีวิตในทุก ๆ วันด้วยความรู้สึกราวกับว่า ‘ได้ใช้ชีวิตจริงอยู่ในความฝันที่มันขรุขระและรายล้อมไปด้วยเพื่อนร่วมทางที่ดีด้วยความเคยชิน’ แต่อีกด้านของความคิดฉันเกิดมีคำถามหนึ่งผุดขึ้นมาในใจ

‘ทำไมโลกของเรามันถึงได้แคบแบบนี้?’

ที่ฉันรู้สึกเช่นนั้นเพราะตลอดระยะเวลาที่ผ่านมานับย้อนไปนานหลายปี ตั้งแต่เมื่อครั้งที่ฉันยังเป็นเพียงเด็กหญิงที่เกิดและเติบโตที่ต่างจังหวัด ชีวิตของฉันมันมีเพียงความมุ่งมั่นเพื่อให้ได้เข้ามาในเส้นทางของการเป็นเภสัชกรสายงานการผลิตยาในสักวันหนึ่ง แล้วตลอดระยะเวลานั้น… ฉันก็ไม่ได้สนใจเรื่องราวในเส้นทางอื่นเลย

ชีวิตของฉันในตอนนั้น ไม่เคยผ่านแม้กระทั่งประสบการณ์การหางานทำ เพราะในตอนนั้นฉันเป็นเภสัชกรในรุ่นที่เรียนจบแล้วมีการใช้ทุน สิ่งที่ฉันได้ทำมีเพียงการสัมภาษณ์พูดคุยเล็กน้อยเท่านั้น แล้วหลังจากนั้นฉันก็ได้ทำงานในฝันเลย ฉันได้มันมาตั้งแต่ก่อนเรียนจบอย่างเป็นทางการเสียด้วยซ้ำ

และขณะที่ฉันกำลังตั้งคำถามกับชีวิตที่เพิ่งจะผ่านพ้นเบญจเพสมาว่า โลกของฉันมันแคบเกินไปไหม? สายการบินแห่งหนึ่งก็เปิดสอบแอร์โฮสเตสพอดี แล้วในทันทีที่เห็นฉันก็ตัดสินใจเลยว่า “ฉันจะสอบแอร์โฮสเตส”

แต่จะทำอย่างไรล่ะ?

เมื่อตลอดทั้งชีวิตฉันไม่เคยมีประสบการณ์อะไรในเส้นทางการบินมากกว่าการเคยเป็นผู้โดยสารเครื่องบินมา 1 ครั้งถ้วน ในส่วนของ Passport สำหรับการเดินทางไปต่างประเทศฉันก็ยังไม่มี เรื่องของความเข้าใจในอาชีพพนักงานต้อนรับบนเครื่องบินเหรอ? ก็เกือบจะเป็นศูนย์

ในจุดเริ่มต้น…

ฉันแทบจะไม่รู้อะไรในท้องฟ้า

ชีวิตของฉันมันมีแต่ยาและการป่วยไข้

.

.

หลังจากที่ฉันตั้งใจว่าจะพาตัวเองไปสู่สนามการสอบแอร์โฮสเตส โลกของฉันมันก็เปลี่ยนไป

เวลาที่ฉันบอกใคร ๆ ใกล้ตัวว่ากำลังจะทำอะไร Feedback ส่วนใหญ่ที่ได้รับกลับมาคือ ‘ฉันว่ามันไม่ดีหรอก เธอเป็นเภสัชฯนั้นดีอยู่แล้ว อย่าเสียเวลาไปสอบแอร์โฮสเตสเลย’

บางคนก็พูดกับฉันตรง ๆ ว่า ‘คนที่จะเป็นแอร์ฯได้ อย่างน้อยคือต้องสวยนะ’

เรียกได้ว่า การบอกใคร ๆ รอบตัวว่า ฉันจะสอบแอร์โฮสเตส มันแทบจะมีแต่ Feedback สนับสนุนให้ฉันอยู่ในวิชาชีพเภสัชกรรมต่อไปตั้งแต่วันที่ฉันยังไม่ได้เริ่ม

แต่พอฉันเข้าสู่กระบวนการสอบแล้วได้เจอเพื่อนใหม่ในสนามสอบ หลายคนก็บอกฉันว่า ‘เธอเป็นเภสัชกรมา ฉันว่า…เธอต้องสอบแอร์โฮสเตสได้แน่นอน’

นั่นคือความคิดเห็นในส่วนของคนอื่น แต่ในความคิดเห็นในมุมของฉัน…

ฉันก็คิดเหมือนหลายคนว่า ในตอนนั้นฉันไม่น่าจะผ่านการสอบไปได้ อย่าว่าแต่ความฝันถึงวันที่จะได้เป็นแอร์โฮสเตสเลย แค่ในส่วนของเอกสารที่ฉันต้องยื่นเพื่อทำการสมัครซึ่งมันต้องมีผลสอบวัดระดับภาษาอังกฤษหรือ TOEIC ด้วยนั้นมันก็ยากมาก ๆ แล้ว นั่นยังไม่นับรวมคุณสมบัติทางกายที่ฉันเข้าข่าย ‘อ้วนเกินไปในสายงานนี้’

เมื่อมีอุปสรรคเข้ามาหลายอย่าง ฉันก็เริ่มต้นจัดลำดับความสำคัญของสิ่งที่ต้องพัฒนา แล้วสุดท้ายก็ตัดสินใจว่า ‘จะเริ่มต้นจากเรื่องของภาษาเป็นอันดับแรก’

เหตุผลที่คิดเช่นนั้น เพราะในระยะเวลาไม่กี่วันหลังจากที่ฉันเห็นประกาศรับสมัคร หากฉันไม่มีผลสอบ TOEIC ที่ได้คะแนนสูงกว่าเกณฑ์ขั้นต่ำ ฉันก็จะไม่ได้ทำแม้กระทั่งการยื่นใบสมัคร

แต่จะทำยังไงล่ะ… เมื่อทักษะภาษาอังกฤษของฉันในตอนนั้นคือค่อนข้างแย่ ฉันรู้สึกว่า ที่ผ่านมาฉันสามารถใช้ภาษาอังกฤษได้แค่อ่าน Textbook และพูดคุยสื่อสารกับคนไข้ในบริบทของวิชาชีพเท่านั้น การต้องสอบ TOEIC ให้ได้คะแนนไม่ต่ำกว่า 600คะแนน สำหรับฉันนั้นมันคือยากมาก ๆ เลยล่ะ

.

.

แต่เพราะความตั้งใจว่า ‘ไม่ว่าตอนนี้ฉันจะเป็นยังไง ฉันจะไม่สวย ฉันจะน้ำหนักเกิน ฉันจะอ่อนภาษาอังกฤษ หรือฉันจะไม่รู้อะไรเกี่ยวกับโลกนอกวงการแพทย์มากแค่ไหน แต่ฉันก็จะทำให้มันเต็มที่ เพราะโอกาสที่เกิดขึ้นนี้มันอาจจะมีแค่เพียงครั้งเดียวเท่านั้น และฉันก็ไม่ยอมให้มันผ่านไปโดยที่ไม่ได้สู้!’

เมื่อมีความตั้งใจแบบนั้นฉันจึงพยายามจัดสรรเวลาว่างที่พอจะมีจากงาน Full-time ที่โรงงานผลิตยาและ Part-time ที่โรงพยาบาลเพื่อการเตรียมตัวสอบวัดระดับภาษาอังกฤษให้ผ่านเกณฑ์ขั้นต่ำ

แล้วตอนนั้นนั่นแหละที่เป็นจุดพลิกผันให้ชีวิตฉันเปลี่ยนจากการใช้ชีวิตในแวดวงของยามาเป็นท้องฟ้า

.

.

“จากเม็ดยาสู่ฟ้ากว้าง” เรื่องเล่าจากตัวฉัน
ทุกเช้าวันอาทิตย์ เวลา 8.00น.
เริ่มตอนแรก 24 กรกฎาคม 2565