Labels

1คุณสมบัตินักบิน 2สอบนักบิน ATPL Checklist DDM Divert Emirates ILS LOC LowVisibility Multitasking Priority STAR SingaporeAirlines Skill TakeOff Twitter a380 กพ กสพท การทำงาน การทำงานนักบิน การศึกษา การสอบ การเรียน ขึ้นเครื่องบิน ข่าว ข้อสอบ ข้อสอบความถนัด ความถนัด ความรู้การบิน ความรู้นักบิน จากเม็ดยาสู่ฟ้ากว้าง จิตวิทยา ทหาร ทหารบก ทันตแพทย์ นักบิน นักบินทหารบก นักบินอาชีพ ประสบการณ์ ปริญญาตรี ผู้โดยสาร ฝึกIQ พัฒนาตัวเอง ลับสมอง วัดIQ สนามบินดอนเมือง สมาคมนักบินไทย สอบนักบิน สัมภาษณ์นักบิน สายการบิน สายการบินต่างชาติ เครื่องบิน เชาว์ เตรียมสอบ เทคนิค เที่ยวบิน เภสัช เภสัชกร เรื่องเล่า เส้นทางชีวิต เส้นทางอาชีพนักบิน เหตุการณ์ แถลงการณ์ แนะนำเกม แพทย์ แอร์โฮสเตส

Saturday, July 23, 2022

"จากเม็ดยาสู่ฟ้ากว้าง" เรื่องเล่าจากเรื่องราวของตัวฉัน ตอนที่ 1

 


 คุณเคยอยู่ในความมืดมิดไหม?’

ความมืดมิดที่ไม่มีแม้กระทั่งแสงจันทร์หรือแสงดาวสาดส่องให้พอรู้ว่า มีอะไรอยู่เบื้องหน้า ในจุดเริ่มต้นเส้นทางอาชีพนักบินของฉันมันเป็นแบบนั้น

ถ้าคุณเคย คุณจะเข้าใจความทรงจำที่ตรึงอยู่ในใจของฉัน

แต่ถ้าคำตอบของคุณคือไม่... คืนนี้หรือคืนไหนในสักคืน คุณลองใช้ผ้าทึบสักผืนปิดตา ขอให้ใครสักคนพาคุณออกไปที่ไหนสักที่ที่ไม่รู้จัก ปล่อยคุณที่ยังคงปิดตาอยู่ลงไปเดินเท้าเปล่าที่ตรงนั้น เดินไป...เดินมา...เดินมา...เดินไปด้วยตัวคนเดียวอยู่สัก 5-10นาที นั่นล่ะค่ะ... คือความรู้สึกของฉัน

.

'ถ้าในครั้งหนึ่งฉันไม่ได้ผ่านการสอบแอร์โฮสเตสจนถึงรอบสุดท้าย ฉันคงไม่ได้เป็นนักบิน'

นี่เป็นประโยคที่ฉันเคยกล่าวไปหลายครั้งเพราะสำหรับฉันมันสำคัญมาก ชีวิตของฉันไม่ได้จู่ ๆ ก็เปลี่ยนแปลงไปเลย มันค่อย ๆ เปลี่ยนไปทีละน้อย ฉันค่อย ๆ กระดึ๊บ ค่อย ๆ คืบคลาน ผลลัพธ์ที่ได้ไม่ได้เกิดขึ้นทันทีที่ลงมือทำ

ฉันหวาดกลัว

ฉันร้องไห้

ฉันรุ่มร้อน

ฉันหนาวสั่น

ฉันล้มเหลว

ฉันผิดพลาด

ฉันพ่ายแพ้มาหลายครั้ง

แต่เพราะฉันได้พบเจอกับพวกมัน ฉันจึงเปลี่ยนแปลง

.

ฉันเปลี่ยนไปอย่างไร?

หากใครไม่เคยรู้จักฉันในวันวานก็คงมองไม่เห็นภาพนั้น แต่ก็ไม่เป็นไร ฉันจะพาทุกคนย้อนเวลากลับไปใน

5

4

3

2

Action

. .

กรุงเทพมหานคร เมื่อ 9 ปีก่อน

แอ๊ด...’

ลูกบิดตรงประตูห้องยาหมายเลข 10 เปิดออก กลิ่นยาและเวชภัณฑ์ที่คุ้นเคยแตะจมูกที่มีแว่นพิงพำนักอยู่ตรงสัน ห้องยาแห่งนั้นเป็นห้องสี่เหลี่ยมขนาดเล็กราวเก้าตารางเมตรที่ทำให้ฉันซึ่งสูงกว่ามาตรฐานหญิงไทยอยู่นิดหน่อยเดินเข้าไปได้เพียงห้าก้าวก็ถึงส่วนที่ลึกที่สุดของห้องซึ่งมีแผ่นกระดาษขนาดเอสี่วางไว้ตรงกระจกใสบนช่องเก็บของนั่นแล้ว

ฉันขยับแว่นใสให้เข้าที่ขณะอ่านข้อความบนกระดาษใบนั้น มันมีชื่อของฉันปรากฏอยู่ใน 'ตารางการทำงานเภสัชกรนอกเวลาราชการ (Part-time)' ในช่องวันเสาร์และวันอาทิตย์จำนวนแปดวันจากที่มีทั้งหมดสิบวันแล้วเข้าใจได้ในทันทีว่า

อื้ม เดือนหน้าว่างอยู่สองวัน ฉะนั้นก็ทำงานทั้งหมด 28วัน จะได้หยุดตั้ง 2วันแหน่ะ!”

ตอนนั้นเป็นเวลาแปดนาฬิกาสามสิบนาที เมื่อเห็นว่ามีเวลาอีกกว่าครึ่งชั่วโมงถึงจะถึงเวลาเริ่มงาน ฉันก็วางกระเป๋าที่ภายในมีโน้ตบุ๊คพร้อมกับเสื้อกาวน์และงานปึ๊งหนึ่งซึ่งค้างคามาจากงานที่ทำประจำทุกวันจันทร์ถึงศุกร์ลงบนโต๊ะที่มีอยู่เพียงตัวเดียวในห้องก่อนจะก้าวขาห้าก้าวกลับออกไปยังประตูบานเดิม

"กรึ๊ก"

ฉันกดล็อคลูกบิดประตูบานเดียวของห้องยาหมายเลข 10 แล้วเดินออกไปจากอาคารสิบกว่าชั้น จุดหมายของฉันคือร้านกาแฟประจำที่แวะอุดหนุนทุกครั้งก่อนเริ่มงาน

.

‘3ปีมาแล้วที่ฉันใช้ชีวิตแบบนี้’ ...

ชีวิตในฝันที่ฉันวาดไว้ตั้งแต่เป็นนักเรียนชั้นประถมศึกษาหรือมัธยมต้นก็ไม่มั่นใจนัก

เวลาเริ่มย้อนกลับไปอีกแล้ว มันใช้เวลาเดินทางประมาณ 12 – 18 ชั่วโมงด้วยการโดยสารรถไฟจาก 'สถานีรถไฟหัวลำโพง' ไปยัง 'สถานีรถไฟชุมทางขอสงวนชื่อ' ซึ่งอยู่ใกล้บ้านต่างจังหวัดของฉันมากที่สุด

ส่วนเวลาเดินทางด้วยไทม์แมชชีนก็เป็นเวลาราว ๆ ยี่สิบกว่าปี แต่ถึงแม้จะต้องย้อนเวลากลับไปอีกนานแต่คุณไม่ต้องกังวลไป การมองหาฉันในตอนนั้นทำได้ไม่ยาก

นั่นไง...! เด็กหญิงร่างผอม ผิวสองสี ขอบตาดำคล้ำ ไม่ใส่แว่น ตัดผมสั้นเสมอติ่งหูที่กำลังมองดูโลงศพที่ภายในมีร่างของหญิงวัยกลางคนตรงนั้นคือตัวฉันเอง

ฉันยืนอยู่ตรงหน้าโลงศพที่ยังไม่มีรูปผู้วายชนม์ ยังไม่มีดอกไม้ ยังไม่มีไฟประดับ ฉันยืนอยู่ตรงนั้นพร้อมกับคำถาม

เป็นไปได้ไหมว่า ป้าอาจไม่ตายถ้ามียารักษาโรคที่แค่กินก็หายขาดได้ ยาที่แค่กินก็หายได้เลยโดยไม่ต้องรอคิวผ่าตัดที่ยาวเหยียด'

ฉันคิดแบบนั้นตั้งแต่ที่ย่าหยิบชุดลูกไม้ขนาดเล็กพิเศษที่เล็กมากจนฉันไม่สามารถยัดลำตัวเข้าไปได้ออกมาให้ดูพร้อมกับพูดภาษาถิ่นบอกฉันว่า

เนี่ย...ป้ามึงตัดเตรียมไว้ กะจะใส่ไปวัดหลังผ่าตัด แต่สุดท้ายมันก็ไม่ได้ใส่”

สิ้นสุดประโยคนั้น ฉันก็วิ่งออกมาจากบ้านสองชั้นกึ่งปูนกึ่งไม้ที่มีชื่อปู่เป็นเจ้าของมายังบริเวณลานกว้างหน้าบ้านซึ่งเป็นลานกว้างหลังบ้านของฉันในเวลาเดียวกันที่ตรงนี้

ที่ซึ่งมีโลงศพของป้าวางอยู่’

.

ในภาพความทรงจำ มันเป็นเวลายามเย็นที่ท้องฟ้าเริ่มมืดสนิท แสงไฟส่องสว่างให้ทางญาติและแขกที่เข้ามาร่วมงานสวดอภิธรรมมีเพียงแสงจากหลอดไฟสีขาวขนาดยาวที่ติดตั้งไว้เป็นระยะ ๆ

 ที่ต่างจังหวัดนอกเขตเทศบาลบ้านฉัน เมื่อมืดแล้วก็คือมืด ไม่มีแสงไฟใด ๆ ส่องสว่างให้ทางเหมือนอย่างในกรุงเทพมหานครหรือในตัวเมืองหรอก แสงที่มีส่องสว่างยามค่ำคืนแบบนี้ เมื่อมี ณ ที่แห่งใดก็หมายความว่า

'ที่แห่งนั้นกำลังมีงานอะไรบางอย่าง'

แล้วนั่นก็เป็นครั้งแรกที่ฉันได้อยู่ในงานที่มีร่างคนตายวางอยู่หลังบ้าน

และถึงแม้ว่า ก่อนหน้านั้นฉันจะชอบพูดคุยกับป้าจนรู้สึกสนิทเสมือนเพื่อน ในส่วนของผ้าลูกไม้ที่ถูกตัดเตรียมพร้อมสำหรับสวมใส่ก็ไม่มีวันได้ถูกใช้งานจะบีบคั้นหัวใจ แต่ในขณะนั้นฉันก็ยังไม่ร้องไห้  

ฉันเป็นลูกสาวคนเดียวและน้องสาวคนเล็กในบรรดาพี่น้อง 3 คนที่นิยามตัวเองว่า

'ฉันเข้มแข็ง ฉันไม่ขี้แย'

เมื่อเป็นเช่นนั้นฉันจึงพยายามแข็งใจไม่ให้หยดน้ำใส ๆ ในตาที่พยายามออกมาสัมผัสบรรยากาศโลกมาแล้วหลายครั้งกระทำได้สำเร็จ

แต่แล้วในนาทีที่พระเริ่มสวดอภิธรรม ฉันที่มองกลับไปในบ้านของปู่กับย่าซึ่งป้าเคยอาศัยอยู่

การเห็นภาพชายชราอดีตทหารผ่านศึกสงครามโลกครั้งที่สองซึ่งเป็นปู่ของฉัน ปู่ผู้ที่ฉันจดจำมาโดยตลอดว่า ปู่คือฮีโร่ ปู่คือนักสู้ผู้แข็งแกร่งและฉันจะแข็งแกร่งให้ได้แบบปู่นั่งประคองมือขึ้นมาพนมด้วยสายตาว่างเปล่ามันทำให้ฉันไม่ไหว คำถามมากมายพรั่งพรูมาอีกครั้งในขณะที่น้ำในตาเอ่อล้นออกมา

ทำไมมันไม่มียาที่รักษาโรคนี้ได้ เพราะถ้าหากมีผู้ป่วยก็จะเข้าถึงการรักษาไม่ว่าจะยากดีมีจนแค่ไหน’

และถ้าทำได้ อาจมีพ่อแม่อีกหลายคนที่ไม่ต้องไหว้ศพลูกตัวเอง’

เรื่องราวในตอนนั้นมันเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้ฉันอยากเป็นเภสัชกรและแน่วแน่ตั้งแต่ในตอนที่ศึกษาชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย

และในความฝันนั้น ฉันเจาะจงการเป็นเภสัชกรที่ทำหน้าที่ผลิตยา แล้วที่ผ่านมาทุกวันจันทร์ถึงศุกร์ตลอดระยะเวลาสามปีฉันก็ทำแบบนั้น

. .

ภาพจากไทม์แมชชีนค่อย ๆ เลือนลาง

ภาพทุ่งนาสีเขียวขจีที่หน้าบ้านกับภาพฝูงวัวที่เดินผ่านในเช้าวันใหม่พร้อมกับแสงอาทิตย์ยามเช้าค่อย ๆ แปรเปลี่ยนเป็นตึกรามบ้านช่องที่ทั้งแออัดและสูงเสียดฟ้า ฉันอยู่ที่นั่น 3ปี จนเกือบจะลืมไปว่า

'ภาพดวงอาทิตย์ที่ส่องแสงสว่างอยู่เบื้องหลังภูเขาคละเคล้ากลิ่นดินอย่างที่เคยเห็นและได้กลิ่นประจำนั้นมันเป็นอย่างไร?'

นอกจากภูเขา คันนา นาข้าว ที่แห่งนี้ก็ไม่มีฝูงวัวพร้อมกับเสียง 'กรุ๊งกริ๊ง' ที่ดังมาจากกระดิ่งที่ห้อยอยู่ที่คอของวัวอีกแล้ว มีแต่เพียงผู้คนที่สวมสายห้อยคอเดินสวนกันขวักไขว่ไปมา

มันเป็นเวลา 3ปี ที่ฉันได้ใช้ชีวิตในความฝัน แต่บางครั้งฉันกลับรู้สึกว่า เหมือนมีอะไรขาดหายไป

ฉันอยู่ในความฝันแต่เหมือนยังไม่ถึงความฝัน

. .

การผลิตยาใหม่ที่โลกนี้ยังไม่ค้นพบนั้นมันต้องใช้เงินทุนและความพร้อมในหลายด้านมาก และในตอนนี้ประเทศของเรายังไม่มีโอกาสที่จะไปถึงจุดนั้นและมันคงยากที่จะเกิดขึ้น’

บทสรุปนี้ทำให้ฉันต้องทบทวนอยู่หลายครั้งว่า จะทำอย่างไรต่อ?

และสุดท้ายฉันก็ยังอยู่ในที่ที่ใกล้เคียงกับความฝันต่อไปโดยเปลี่ยนเป้าหมายจากการคิดค้นยาใหม่ ๆ ที่โลกยังไม่ค้นพบไปเป็น การผลิตวัคซีนที่จะเป็นประโยชน์ต่อประเทศและประชาชน

.

‘3ปีมาแล้วที่ฉันใช้ชีวิตแบบนี้’

ตอนนั้นที่ฉันย้ายมาใช้ชีวิตที่กรุงเทพมหานครโดยลำพัง ฉันจะใช้เวลาทุกวันจันทร์ถึงศุกร์ไปกับงานประจำที่มุ่งมั่นกับการผลิตวัคซีนออกมาใช้ในประเทศ

สิ่งตอบแทนที่ฉันได้รับ นอกจากความหวังว่า 'จะได้เห็นคนไทยใช้วัคซีนที่ฉันเฝ้าฟูมฟักมาตั้งแต่ไก่ยังไม่ออกจากไข่ในสักวัน' ก็คือรายได้ในทุก ๆ สิ้นเดือนซึ่งทันทีที่ได้รับฉันก็จะใช้เงินราว ๆ 30% ของทั้งหมดจ่ายค่าที่พัก ค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าโทรศัพท์และเก็บไว้สำหรับค่าเดินทางของเดือนถัดไป

ค่าใช้จ่ายเพื่อการอยู่อาศัย การสื่อสารและการเดินทางกว่าหนึ่งในสามของรายได้มันดูเหมือนจะเป็นอัตราส่วนที่เยอะ แต่จริง ๆ ฉันคิดว่ามันเป็นเพราะรายได้ต่อเดือนของฉันในตอนนั้นยังน้อยเสียมากกว่า

อื้ม...จริง ๆ ฉันก็ไม่แน่ใจนะว่า เงินประมาณหนึ่งหมื่นห้าพันบาทในสมัยนั้นสำหรับคุณมันควรเรียกว่า มากหรือน้อยหรืออย่างไร?

เป็นไปไม่ได้หรอกเธอ ก็รู้กันอยู่ว่าคนเป็นเภสัชกรแค่ค่าใบประกอบวิชาชีพก็ได้เริ่มต้นหลายพันบาทแล้ว”

ก็ใช่...ถ้าได้ก็เริ่มต้นที่ห้าพันบาท แต่ฉันไม่ได้ค่าใบประกอบวิชาชีพน่ะ”

เอ้า เธอไม่มีใบประกอบฯเหรอ? ถ้ามีก็ต้องได้สิ!”

ฉันมี แต่อืม...ช่างมันเถอะ”

พูดถึงตอนนี้ดูเหมือนกับว่า เรื่องเงินจะเป็นสิ่งที่มีผลต่อความรู้สึกกับฉันอยู่ไม่น้อย ใช่แล้ว...มันมีผล

มันมีผลตอนที่มองจำนวนเงินเก็บในบัญชีออมทรัพย์แล้วคิดถึงการตีค่าความสามารถคนด้วยรายได้

คนเก่งจริงไม่ทนทำงานที่มันรายได้น้อย ๆ หรอก’

มันมีผลเมื่อคิดว่าอีกสิบปีฉันจะมีเงินเก็บอีกเท่าไหร่ เงินก้อนนั้นจะทำให้ฉันที่เติบโตไปเป็นผู้ใหญ่ที่สามารถก้าวผ่านคำว่า 'พึ่งพาตัวเองได้' ไปเป็น 'เป็นที่พึ่งพาให้กับคนอื่น' ได้ไหม?

และมันก็มีผลเมื่อมีคำถามต่อไปว่าแล้วเธอทนทำไปเพื่ออะไร?” เกิดขึ้น

นั่นสินะ ฉันจะทำต่อไปเพื่ออะไร?

. .

เพื่อความฝันไง”

ฝันที่จะได้เห็นคนไทยใช้วัคซีนที่ฉันทำ

เพื่อความสบายใจของครอบครัวที่เห็นฉันทำงานราชการ ฉันเข้าใจนะว่าในมุมมองใครหลายคนการทำงานราชการมันดีแค่ไหน

และจะว่าไปแผนกที่ฉันทำอยู่ นอกจากฉันกับเพื่อนเภสัชกรที่เหลืออยู่อีกหนึ่งคนจากที่เคยมีกันอยู่สี่คนก็มีเพียงเภสัชกรระดับหัวหน้าอีกเพียงคนเดียวเท่านั้น

ถ้าฉันทำต่อฉันก็พอจะมองเห็นภาพที่ตัวเองกับเพื่อนครองตำแหน่งหัวหน้าในอนาคต

นอกจากนั้นโอกาสในการได้ไปศึกษาดูงานเพื่อพัฒนาต่อยอดความรู้ในที่ต่าง ๆ ทั้งในและนอกประเทศก็มีเข้ามาอย่างสม่ำเสมอ

และที่สำคัญเพื่อนร่วมงานซึ่งเป็นนักวิทยาศาสตร์และผู้ช่วยนักวิทยาศาสตร์ในทีมที่ทำงานด้วยกันก็มีความสัมพันธ์กับฉันดีมาก

นั่นคือเหตุผลที่ฉันตอบตัวเอง เหตุผลหลายข้อที่ทำให้ข้อเสียที่ที่แห่งนั้นมีรายได้น้อยกว่าที่อื่นลดทอนลงไป

.

เรื่องเงิน

ฉันไม่รู้ว่าฉันมักน้อยหรือโลกสวย แต่ชีวิตที่เติบโตมาบนคันนามันทำให้ฉันรู้สึกว่า

เงินไม่ได้มีอิทธิพลกับฉันมากนัก

ฉันไม่อยากจะรวยล้นฟ้า แค่ขอให้มีมันมากพอสำหรับการไม่ต้องคิดว่า

'พรุ่งนี้จะเอาเงินที่ไหนกินข้าว?'

'จะเอาเงินที่ไหนจ่ายค่าที่ซุกหัวนอน?'

ฉันหวังแค่ให้ได้มีมันมากพอเพื่อตอบสนองความอยากได้ อยากมี อยากเป็นของตัวเอง แล้วเหลือส่วนหนึ่งสำรองไว้ให้ภาคภูมิใจว่า เราพร้อมเป็นที่พึ่งให้กับคนอื่น ...แค่นั้นก็พอแล้ว

นั่นคือสิ่งสำคัญที่ทำให้ฉันตอบพี่หัวหน้าเภสัชกรตอนขึ้นไปดูระบบโรงงานที่ดาดฟ้าด้วยกันว่า

ฉันตั้งใจจะเป็นเภสัชกรประจำที่นั่นต่อไปจนวันเกษียณ

ส่วนเรื่องเงินนั้น... ฉันจะหาเพิ่มจากงาน Part-time นอกเวลาราชการ

.

ด้วยเหตุนั้น ในทุก ๆ วันจันทร์ถึงศุกร์ในเวลาราชการ ภารกิจประจำวันของฉันจึงคือการตื่นขึ้นมาไปทำงานที่โรงงานผลิตยา

พอถึงเวลาราชการและทุกวันเสาร์กับอาทิตย์ ฉันก็จะไปทำงาน Part-time ที่ร้านยาบ้าง ที่สอนพิเศษบ้าง

ฉันทำอยู่แบบนั้นเกือบทุกวัน วันละสิบกว่าชั่วโมง จนในปีที่สามของการทำงานที่ฉันต้องเปลี่ยนวิถีการทำงานใหม่

ฉันต้องเดินทางไปมาระหว่างโรงงานผลิตยานั่นกับ Pilot plant ที่ต่างจังหวัด ทำให้ตั้งแต่นั้นในทุกวันจันทร์ถึงศุกร์ฉันต้องให้เวลากับงานประจำไปทั้งหมด ทำงานประจำจนกระทั่งงานอนุญาตให้ฉันกลับไปพัก กล่าวราตรีสวัสดิ์และโอยาสุมินาไซกับคนในทีม พอถึงวันเสาร์และอาทิตย์ฉันก็จะมาใช้ชีวิตที่โรงพยาบาลแห่งนี้

 .

ตอนนี้กาแฟออนไอซ์อเมริกาโน่วางอยู่ที่เบื้องหลังเคาท์เตอร์ห้องจ่ายยาหมายเลข 10 เป็นที่เรียบร้อย

เหลือเวลาอีก 5นาทีก็จะถึงเวลาเริ่มงาน ฉันหยิบโน้ตบุ๊คพร้อมกับงานปึ๊งหนึ่งที่เตรียมมาทำต่อในเวลาว่างออกจากกระเป๋ามาวางไว้ใกล้ตัว แล้วในช่วงเวลาหนึ่งที่ฉันนั่งอยู่ตรงนั้น ข้อความบางอย่างก็ปรากฏขึ้นมาตรงหน้า

.

สายการบินมะม่วงรับสมัครพนักงานต้อนรับบนเครื่องบินตำแหน่งแอร์โฮสเตสและสจ๊วต คุณสมบัติผู้สมัครเพศหญิงข้อที่ 1. อายุไม่เกิน 26ปี’

โห...ปีนี้เราอายุ 26ปีพอดี เอายังไงดีเนี่ย!”